การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างหรือวัสดุตกแต่งทั้งภายในและภายนอกบ้านมีความสำคัญอย่างมากสำหรับคนรักบ้าน ไม่เพียงแต่ต้องมองหาวัสดุที่สวยงามและเข้ากันได้กับภาพรวมของบ้านแล้ว ยังต้องคำนึงถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในพื้นที่นั้น  พื้นคอนกรีตพิมพ์ลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านได้ สามารถสร้างลวดลายและสีสันที่ถูกใจเพื่อทำให้บ้านดูดีขึ้น มีความแข็งแรงทนทานรับน้ำหนักได้ดีและมีพื้นผิวที่ไม่ลื่น ป้องกันการลื่นไถลได้

พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย คืออะไร?

พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย คือ พื้นคอนกรีตที่ถูกออกแบบให้มีลวดลายสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ มีการพิมพ์ลายด้วยแม่พิมพ์ พิมพ์ลายลงบนพื้นคอนกรีต เพื่อสร้างลวดลายตามที่ต้องการและมีสีสันสวยงามคงทน โดยคำนึงถึงโครงสร้างทางวิศวกรรมเป็นหลัก มีข้อดีในเรื่องความแข็งแรงคงทนแบบงานเทพื้นคอนกรีต แต่พื้นคอนกรีตพิมพ์ลายจะมีขั้นตอนการขัดมันผิวด้วยผงสีเคลือบแกร่งก่อนการพิมพ์ลาย และการเคลือบผิวด้วยน้ำยาเคลือบเงาใสกันซึมซึ่งเป็นขั้นตอนที่ทำให้พื้นคอนกรีตพิมพ์ลายไม่สะสมความชื้นในเนื้อคอนกรีต จึงทนทั้งแดดและฝน ไม่เป็นตะไคร่และเชื้อรา

เนเจอร์ ครีต คอนกรีตพิมพ์ลาย งานสวนน้ำแกรนแคนยอน เชียงใหม่ ลายNew Ashar

โครงสร้างพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย สำหรับชนิด เทในที่ ประกอบด้วย

ชั้นโครงสร้างของคอนกรีตพิมพ์ลาย Verticle Narrow

ชั้นที่ 1: ชั้นทรายบดอัด (ชั้นดินเดิม)

ในการเตรียมพื้นที่สำหรับคอนกรีตพิมพ์ลาย การบดอัดทรายเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการก่อสร้างที่สำคัญมาก เพื่อให้ได้พื้นที่ที่มีความแข็งแรงก่อนการเทคอนกรีตโครงสร้าง

วิธีการเตรียมชั้นทรายบดอัดประกอบด้วย

  1. การตรวจสอบและวางแผน : ตรวจสอบระดับของพื้นดินก่อน เพื่อให้สามารถกำหนดชั้นทรายบดอัดอย่างเหมาะสมในพื้นที่นั้น ๆ ได้ 
  2. การขุดและปรับระดับด้วยทราย : ปรับระดับพื้นดินด้วยการใส่ทรายปรับระดับก่อนเทคอนกรีต เพื่อให้พื้นมีความสม่ำเสมอ และความหนาของคอนกรีตได้มาตรฐาน
  3. การบดอัด : หลังจากเตรียมพื้นดินและทรายหยาบแล้ว ต้องบดอัดด้วยเครื่องตบดินให้มีความราบเรียบเสมอกัน เพื่อทำให้แน่นและแข็งแรงขึ้น ส่วนนี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ชั้นทรายบดอัดมีความแข็งแรงเพียงพอสำหรับการก่อสร้างในขั้นตอนต่อไป
  4. การตรวจสอบและปรับปรุง : หลังจากเตรียมชั้นทรายบดอัดแล้ว ต้องมีการตรวจสอบความแข็งแรงและระดับให้แน่ใจว่ามีความเหมาะสมสำหรับการก่อสร้างชั้นบน

ชั้นที่ 2: ชั้นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก (พื้นโครงสร้าง)

ส่วนหนึ่งของการเทพื้นคอนกรีตโครงสร้างให้มีความแข็งแรง คือ การปรับระดับโดยใช้คอนกรีตโครงสร้างกำลังอัด 240 – 280 ksc. และใช้ตะแกรงเหล็ก (Wire Mesh) ขนาดที่เหมาะสมเสริมคอนกรีตเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ความทนทานของพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายต่อการรับน้ำหนักและแรงกระแทกจากการใช้งาน 

ชั้นที่ 3: ตะแกรงเหล็ก (Wire Mesh)

ชั้นนี้คือการวางตะแกรงเหล็กบนพื้นคอนกรีตเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และความทนทานในการรับน้ำหนักของพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย 

วิธีการเตรียมตะแกรงเหล็ก (Wire Mesh) ประกอบด้วย

  1. การตรวจสอบคุณภาพของตะแกรงเหล็ก (Wire Mesh) : ก่อนที่จะใช้ตะแกรงเหล็กควรตรวจสอบว่ามีคุณภาพและขนาดที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานหรือไม่ ต้องไม่มีรอยขาด หรือความผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจทำให้มีความแข็งแรงไม่เพียงพอ 
  2. การวางตะแกรงเหล็ก (Wire Mesh) : วางลงบนพื้นที่ที่เตรียมไว้โดยวางเป้าระดับ การวางตะแกรงเหล็กควรอยู่ระหว่างกลางของความหนาคอนกรีต เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

ชั้นตะแกรงเหล็ก (Wire Mesh) เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้โครงสร้างพื้นคอนกรีตมีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดรอยแตกร้าว และการสึกหรอในโครงสร้างบนพื้นคอนกรีตได้ดี 

ชั้นที่ 4: ชั้นคอนกรีตผสมเสร็จหรือชั้นคอนกรีตพิมพ์ลาย (พื้น Topping)

เป็นชั้นคอนกรีตที่เทสำหรับการพิมพ์ลาย โดยต้องมีการวางตะแกรงเหล็ก (Wire Mesh) ด้วย

วิธีการเตรียมชั้นคอนกรีตผสมเสร็จ ประกอบด้วย

  1. เตรียมพื้นที่ : ทำความสะอาดพื้นที่ให้สะอาดและแห้งเพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกติดอยู่บนพื้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการยึดติดของคอนกรีต 
  2. เทคอนกรีต : การเทคอนกรีตผสมเสร็จ ต้องเทให้ครบทุกช่องว่างของตะแกรงเหล็ก (Wire Mesh) ซึ่งเป็นชั้นเสริมที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของโครงสร้าง
  3. ปรับพื้นให้เรียบ : หลังจากที่เทคอนกรีตครบทุกช่องว่างของ Wire Mesh แล้ว มักจะมีการปรับระดับพื้นผิวของพื้น Topping เพื่อให้มีความเรียบและได้ระดับ โดยใช้คอนกรีตโครงสร้างกำลังอัด 240 – 280 ksc.
  4. โรยผงสีเคลือบแกร่ง ขัดมันและโรยผงลอกแบบ : โดยการโรยผงสีเคลือบแกร่ง และผงลอกแบบในปริมาณที่กำหนดตามมาตรฐานให้มีความสม่ำเสมอทั่วถึง
  5. ตรวจสอบความเรียบร้อยของแม่พิมพ์ ว่ามีการชำรุดเสียหาย หรือมีการหดตัวหรือไม่ และกำหนดการใช้จำนวนแม่พิมพ์ที่เหมาะสมตามปริมาณพื้นที่ เพื่อให้พิมพ์ลายเสร็จก่อนที่พื้นคอนกรีตจะแข็งตัว

ชั้นที่ 5: น้ำยาอะคริลิคเคลือบใสกันซึม

เป็นขั้นตอนสุดท้ายในกระบวนการก่อสร้างพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย เป็นการป้องกันความชื้น ป้องกันการเกิดตะไคร่ เชื้อรา แสงแดด และเสริมความแข็งแรงของพื้นคอนกรีต น้ำยาเคลือบอะคริลิคใสกันซึมมักถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการสึกหรอ การกัดเซาะ และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับพื้นคอนกรีต นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความเงางามให้กับพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายอีกด้วย 

วิธีการเตรียมน้ำยาเคลือบอะคริลิคใสกันซึม ประกอบด้วย

  1. เตรียมพื้นผิว : ก่อนที่จะใช้น้ำยาเคลือบอะคริลิคใสกันซึม ควรเตรียมพื้นผิวของพื้นคอนกรีตให้สะอาดและแห้งและที่สำคัญคือ การเก็บรายละเอียดของงานให้เรียบร้อยก่อนการทาน้ำยา เพื่อให้น้ำยาเคลือบสามารถเกาะพื้นผิวได้ดี 
  2. ทาน้ำยาเคลือบอะคริลิคใสกันซึม : น้ำยาเคลือบอะคริลิคใสกันซึมจะถูกทาด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะสม ทั้งหมด 2 รอบ ลงบนพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายอย่างทั่วถึง
  3. รอให้แห้ง : จะต้องรอให้น้ำยาเคลือบแห้งสนิทก่อนที่จะใช้งานพื้นที่นั้น ๆ โดยปกติควรใช้งานหลังจากทาน้ำยาเคลือบแล้วเสร็จ อย่างน้อย 24 ชม. 

ข้อดี-ข้อเสีย ของ พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย มีดังนี้

ข้อดี ข้อเสีย ของคอนกรีตพิมพ์ลาย โดยเนเจอร์ ครีต

ข้อดี:

  1. ความทนทานและความแข็งแรง
    พื้นคอนกรีตพิมพ์ลายมีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานทั่วไป ทนต่อแรงกดทับ จากคุณสมบัติของคอนกรีตโครงสร้างที่มีกำลังอัดสูง ทำให้มีอายุการใช้งานนาน และไม่ต้องการบำรุงรักษามากมาย เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของพาหนะหนัก เช่น ลานจอดรถ หรือ ถนน
  2. ความสวยงาม
    พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย สามารถสร้างลวดลายที่เป็นธรรมชาติและออกแบบให้น่าสนใจ เพื่อให้ออกมาสวยงามตามที่ต้องการ
  3. วัชพืชไม่สามารถแทรกขึ้นมาได้
    สิ่งที่ทำให้พื้นคอนกรีตพิมพ์ลายต่างจากการปูแผ่นทางเดินหรือบล็อคตัวหนอน คือ วัชพืชไม่สามารถแทรกขึ้นมาได้ หมดกังวลเรื่องความรกของหญ้าจากพื้นดิน
  4. ไม่เป็นตะไคร่น้ำและเชื้อรา
    พื้นคอนกรีตพิมพ์ลายมีการขัดมันก่อนพิมพ์ลายและเคลือบอะคริลิคใส ทำให้ไม่เกิดตะไคร่น้ำและเชื้อราเหมือนพื้นคอนกรีตทั่วไป
  5. ดูแลรักษาง่าย
    ความสะดวกอย่างหนึ่งของพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย คือ การดูแลรักษาความสะอาดทำได้ง่าย สามารถใช้น้ำเปล่าผงซักฟอก หรือน้ำยาล้างจานทำความสะอาดก็ได้ แต่ไม่ควรใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพราะจะกัดกร่อนพื้นผิวหน้าของคอนกรีตจนเกิดความเสียหาย หรือหลุดร่อนได้

ข้อเสีย:

พื้นคอนกรีตพิมพ์ลายมีข้อดีมากมาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการ เนื่องจากการติดตั้งพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายมักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าพื้นคอนกรีตธรรมดา ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการทำงานซับซ้อนมากกว่าพื้นคอนกรีตธรรมดา หากเลือกใช้วัสดุเกรดต่ำก็จะทำให้คุณภาพของพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายลดลง การเลือกบริษัทรับเหมาทำพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย ควรพิจารณาจากประสบการณ์และคุณภาพของงานอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ

สรุป

การทำพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ต้องการตกแต่งบริเวณรอบตัวบ้านหรืออาคารให้เหมาะสมกับการใช้งาน มีความสวยงามและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น สามารถพิจารณาได้จากข้อดีข้อเสียก่อนการตัดสินใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบ วัตถุประสงค์การใช้งาน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และความเข้ากันของสถาปัตยกรรมโดยรอบอีกด้วย หากต้องการรับคำปรึกษาหรือกำลังมองหาวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย สามารถสอบถามได้ที่: